ปุ่มที่ใช้บ่อยน่ะครับจะมีหลัก ๆ คือ Volt/DIV, Time/DIV, Trigger Level, Position ชึ้นลงซ้ายขวา
เนื่องจาก Oscilloscope บนหน้าจอจะมีแกนตั้ง และแกนนอน
แกนตั้ง คือ แกนของแรงดันไฟฟ้า (Volt)
แกนอน คือ แกนเวลา (Time)
เพราะฉะนั้นด้วยเหตุผลนี้จึงจำเป็นต้องสามารถปรับค่า scale ของแกนตั้ง และแกนนอนได้
- Volt/DIV เป็นปุ่มปรับใช้สำหรับปรับสเกลทางด้านแกนตั้ง เช่น 1V/DIV เท่ากับ 1V ต่อ 1 ช่องทางด้านแกนตั้ง โดยส่วนมาก Oscilloscope จะมีสเกลแกนตั้งบนจออยู่ที่ 8 ช่อง
เพราะฉะนั้น ถ้าท่านปรับ 1V/DIV แสดงว่าตอนนี้ทั้งจอภาพของ Oscilloscope จะสามารถแสดงสัญญาณได้มากที่สุดเท่ากับ 1V/DIV x 8 = 8V ถ้าสัญญาณท่านสูงกว่า 8V
ก็จะไม่สามารถวัดได้ ท่านต้องปรับสเกลเพิ่ม เป็น 5V/DIV เป็นต้น
- Time/DIV หลักการเดียวกันกับ Volt/DIV แต่สเกลจะมีหน่วยเป็นวินาที เช่น 1s/DIV, 100ms/DIV เป็นต้น
วิธีการคำนวนความถี่
ก่อนอื่นต้องรู้จักความหมายของ 1 คาบเวลาของสัญญาณก่อน
- 1 คาบเวลาสัญญาณคือนับตั้งแต่ จุดเริ่มและกลับมาซ้ำจุดเดิม เช่น สัญญาณ Sine นับจากยอดไปอีกยอด
ตัวอย่าง
นำ Oscilloscope จับสัญญาณ Sine ซักสัญญาณนึง ปรากฎว่า นับจากยอดไปถึงยอดใช้ทั้งหมด 5 ช่อง และขณะนั้น Time/DIV ปรับไว้ที่ 0.2ms/DIV
แสดงว่าสัญญาณนี้ใช้เวลา 1 คาบทั้งหมด = 0.2ms x 5 = 1ms
นำค่าที่ได้มาเข้าสูตร ความถี่ = 1 / คาบเวลา
เพราะฉะนั้น สัญญาณนี้จะมีความถี่ = 1/1ms = 1kHz ( 1 กิโลเฮิร์ท ) นั่นเอง
สรุป
ในการคำนวนหา แรงดันไฟฟ้า หรือ ความถี่ ก็ดี ค่อนข้างยุ่งยาก ดังที่กล่าวมาแล้ว
เพราะฉะนั้นควรเลือกใช้ Digital Oscilloscope จะดีกว่า เพราะ Digital Oscilloscope สามารถคำนวนและอ่านค่าต่าง ๆ ให้เราได้เลยโดยไม่ต้องคำนวน
ค่าที่ Digital Oscilloscope จะสามารถคำนวนให้ได้ เช่น Vpp, Vrms, Vavg, Period, Frequency, Duty Cycle, Rise Time, Fall Time เป็นต้น |